การฝีกซ้อมแบบ Tempo

ผมเข้าใจว่ากการวิ่ง tempo น่าจะเป็นการวิ่งเร็วสม่ำเสมอ แบบไปได้เรื่อยๆ หายใจอาจจะแรงขึ้นแต่ไม่ถึงกับหอบจนพูดไม่ออกตลอดระยะทางครับ ที่บอกว่าช่วงท้ายจะหายใจไม่ค่อยทันนี้ มีการเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นหรือไม่ การวิ่ง tempo ไม่น่าจะทำให้เราถึงกับหมดแรงจนอ่อนล้า ถ้าเป็นเช่นนั้นแสดงว่าอาจจะเร็วไปก็ได้

ถ้าเป็นไปได้ อยากให้หัดวิ่งโดยใช้ความรู้สึกของตัวเองประกอบด้วย เพราะถ้าไปใช้เวลาอย่างเดียว ในแต่ละวันร่างกายเราไม่ได้พร้อมเหมือนกัน (บางตำราให้วัดที่อัตราการเต้นของหัวใจ จะชัวร์กว่า) เช่น บางวันเราอาจจะล้าจากซ้อมเมื่อวาน (เมื่อวานฝึกหนักแล้ว) เป็นต้น ซึ่งควรจะสับหลีกวันซ้อมเบากับวันซ้อมหนักด้วย

ถ้าใช้ความรู้สึก เราก็จะสามารถนำไปใช้ตอนแข่งได้ จะได้ไม่เร็วไม่ช้าจนเกินไป ตำราเขาบอกว่า ในการแข่งระยะ 15-21 โล นักวิ่งจะใช้ความเร็ว (เฉลี่ย) ที่จุดปริ่มขอบนี้ แต่ถ้า 10 โล ก็จะเร็วขึ้นกว่าหน่อย ถ้ามาราธอนก็จะช้ากว่าหน่อย

เมื่อซ้อม Tempo (อย่างน้อย 40 นาที 1-3 ครั้ง/สัปดาห์) การวิ่งโดยใช้ความรู้สึกเดิม เหนื่อยเท่าเดิม เราน่าจะวิ่งได้เร็วขึ้น และเมื่อฝึกได้ในระบบแอโรบิกไปได้สัก 1-2 เดือน ก็น่าจะเสริมการซ้อมแบบอินเตอร์วาล เริ่มจากความเร็วยังไม่ต้องมาก จำนวนเที่ยวไม่ต้องมาก สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ก็จะช่วยให้เราวิ่งได้ทนยิ่งขึ้น

ที่เราวิ่งกับรุ่นพี่แล้วเราเหนื่อยกว่า คิดว่ารุ่นพี่เขามีจุดปริ่มขอบที่สูงกว่าเรา และอาจจะทน (ต่อกรดแลกติก) มากกว่าเราด้วย เมื่อฝึกเองแล้ว นานๆ ทีก็น่าจะไปทดสอบด้วยการวิ่งกับรุ่นพี่ดูบ้างก็น่าจะสนุกดีครับ

เพิ่มเติม

เข้าใจว่าน่าจะยังอยู่ในระบบแอโรบิก แต่ช่วงท้ายอาจจะเลยเข้าสู่แอนแนโรบิก (หายใจไม่ทัน) ซึ่งลำเข้าไปหน่อยได้ แต่ไม่ควรล้ำเข้าไปลึก เพราะจะกลายเป็นการซ้อมในระบบอื่นไป

0
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้นะครับx
X